หุ้น

ดัชนีหุ้นฟิวเจอร์สของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นในระหว่างการซื้อขายของตลาดภูมิภาคเอเชีย หลังจากตลาดซื้อขายในสหรัฐฯ ไม่คึกคักมาก ปัจจัยพื้นฐานแสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องในตลาด ขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิด 19  มีจำนวนลดลงในสหรัฐฯ เช่นเดียวกับยอดผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล  ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางสหรัฐฯกำลังเตรียมพร้อมสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบถัดไปที่จะหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ส่งผลให้การลงทุนในหุ้นสูงขึ้น โดยเฉพาะหุ้นวัฏจักร ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ 31,382 จุด S & P500 เพิ่มขึ้นเป็น 3,920 จุด และ Nasdaq เพิ่มสูงถึง 13,749 จุด

ดอลลาร์สหรัฐฯ

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในตะกร้าเงิน ปรับลดที่ 90.37 จุด นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ นักลงทุนมีความสนใจที่จะลงทุนมากขึ้นในสกุลเงินหลัก นักลงทุนรอคอยคำปราศรัยของนายพาวเวลล์ในวันนี้เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ EURUSD พุ่งสูงขึ้นเป็น 1.2129 ดอลลาร์จากสัญญาณบวกเกี่ยวกับอิตาลี GBPUSD เพิ่มขึ้นเป็น 1.3827 ดอลลาร์ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2018

โลหะและแร่

ราคาโลหะมีค่ายังคงมีจังหวะที่ดีเนื่องจากดอลลาร์ยังคงอ่อนตัวลงพร้อมกับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีลดลง 1.15% จาก 1.20% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ทองคำแท่งกลับมาน่าดึงดูดใจอีกครั้งในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ เนื่องจากการคาดการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ราคาทองคำเพิ่มขึ้นเป็น 1846 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่โลหะเงินคงที่ใกล้ 27.40 ดอลลาร์ และพาราเดียมฟิวเจอร์สลดลงที่ 2320 ดอลลาร์ แร่แพลทินัมทะยานขึ้นแตะ 1209 ดอลลาร์ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 6 ปี

น้ำมัน

ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่มีการสำรวจว่าคลังน้ำมันดิบสำรองปรับลดลง สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) รายงานว่าคลังน้ำมันลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ราคาปรับลดลงเล็กน้อยหลังจากปรับขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนจับตามองรายงานคลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯวันนี้ น้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนมีนาคมทรงตัวที่ $58.20 และน้ำมันเบรนท์ส่งมอบเดือนเมษายนปรับลดที่ $60.90

เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ